สุดยอดเว็บไซต์เพื่อคนไทยที่มีหัวใจใฝ่รู้
ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ มีข่าวเด็กไทยคว้ารางวัลทางด้านวิชาการระดับโอลิมปิกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในระดับอุดมศึกษาที่สามารถสร้างผลงานกับเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ในระดับนานาชาติ
ด้วยเช่นกัน ใครเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือแม้แต่ครู อาจารย์ คงปลื้มใจกันยกใหญ่
ผลงานในระดับเยาวชนที่บ้านเราคว้ามาได้นี้ สามารถบ่งบอกให้ชนชาติอื่นๆ ได้รับรู้ว่า ประเทศไทยไม่ใช่ล้าหลังอีกต่อไปแล้ว หลายครั้งที่เด็กไทยสร้างปาฏิหาริย์ในการคว้ารางวัลที่มีคู่แข่งระดับโลกมากมาย นั่นเป็นการตอกย้ำว่ามาตรฐานการศึกษาบ้านเราเข้มแข็งและทัดเทียมกับชาติอื่นๆ ได้อย่างไม่น่าอายอีกต่อไป
สำหรับปัจจัยที่คอยเกื้อหนุนและส่งเสริมด้านความรู้แก่เยาวชนนั้น โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าอินเทอร์เน็ตมีบทบาทสำคัญมากทีเดียว เพราะเด็กไทยเริ่มหันมาเรียนรู้จากอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยอาศัยเว็บไซต์ต่างๆ ที่เป็นแหล่งความรู้ด้านวิชาการ แทบทุกสาขาวิชา คุณสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการผ่านเว็บไซต์ได้ นอกจากนี้การพัฒนาเว็บเสิร์ช เอนจิ้น ให้มีศักยภาพในการสืบค้นข้อมูลอยู่ตลอดนั้น ยิ่งช่วยทำให้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นสถานที่ ที่ให้ความรู้อย่างยิ่งยวด ผมเชื่อว่าต่อไปภายภาคหน้า หากมีการผลักดันให้เยาวชนแสวงหาความรู้จากเว็บไซต์หรือภายนอกห้องเรียนอย่างต่อเนื่อ
ง เราจะมีบุคคลากรที่เพียบพร้อมไปด้วยความรู้ ความสามารถแทบทุกแขนง ดังนั้น ในฉบับนี้คอลัมน์ Webline จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภูมิความรู้ให้กับเด็กและเยาวชน โดยการพาไปรู้จักกับสุดยอดเว็บไซต์ทางด้านวิชาการ
วิชาการ.คอม
www.vcharkarn.comเว็บแรกที่อยากแนะนำให้รู้จักกันนี้ มีชื่อว่า วิชาการ.คอม ครับ ซึ่งก็สมชื่อจริงๆ เพราะแค่เปิดหน้าแรกขึ้นมา คุณจะพบกับข้อมูลความที่รู้เรียงรายกันเต็มหน้าจอ ประมาณว่ามีเท่าไรก็ขอใส่ให้เต็มที่ เพื่อให้ความรู้แก่เด็กไทยโดยเฉพาะเลยละครับ ใครรู้ตัวว่าเป็นหนอนหนังสือก็เร่เข้ามาเลย สิ่งที่คุณต้องการรออยู่ที่นี่แล้ว
ประวัติโดยย่อของผู้ก่อตั้งเว็บ วิชาการ.คอม นี้ไม่ธรรมดาเช่นกัน ผมไปได้ข้อมูลคร่าวๆ มาว่า เกิดจากแรงบันดาลใจครั้งวัยเยาว์ ของสามหนุ่ม สามมุม ที่ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นเว็บมาสเตอร์นั่นเอง โดยประกอบด้วย ผศ.ดร.บุญญฤทธิ์ อุยยานนวาระ ดร.อรรถกฤติ ฉัตรภูติ และ ดร.พิเชษฐ กิจธารา ทั้งสามท่าน เมื่อสมัยเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นนักเรียนทุนของสองโครงการใหญ่ อันได้แก่ พสวท. (พัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) โดยได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการ และหลังจากนั้น ทั้งสามก็ได้รับทุนจาก พสวท. ไปศึกษาต่อทางด้านวิทยาศาสตร์ในระดับปริญญาเอกยังต่างประเทศ ซึ่งในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่นั้น ก็ได้เกิดประกายความคิดที่จะแบ่งปั่นความรู้ โดยต้องการชักจูงให้น้องๆ เยาวชนเข้ามาแสวงหาความรู้ผ่านอินเทอร์เน็ต และก็กลายเป็นที่มาของการก่อตั้ง เว็บไซต์วิชาการ.คอม นั่นเอง
เห็นประวัติคร่าวๆ แล้วก็รู้สึกว่าทั้งสามท่านนี้ตั้งใจที่จะนำความรู้คืนสู่บ้านเกิด ซึ่งการผลักดันให้มีเว็บไซต์วิชาการ.คอม ขึ้นมานี้ ช่วยให้เหล่านักเรียนทุนได้มารวมตัวกัน เพื่อระดมสมองสร้างองค์ความรู้ที่มีประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล แถมยังมีหลายแขนงวิชาให้เลือกกันศึกษาอีกด้วย เราไปดูข้อมูลภายในเว็บกันบ้างดีกว่าครับ เพราะเชื่อว่าทุกคนคงอยากจะรู้ว่ามีอะไรให้เรียนรู้จาก วิชาการ.คอม บ้าง
อย่างแรกที่อยากจะบอกคือ เนื้อหาทั้งหมดที่นำเสนอในเว็บนี้ ไม่มีส่วนใดเลยที่จะเอาใจวัยโจ๋ เช่น เรื่องความรัก ดารา หรือแฟชัน เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นวิชาการความรู้ในแขนงต่างๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอ่านข้อมูล ขาวสาร ที่เป็นความรู้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเนื้อหาหลักๆ จะอยู่ที่หัวข้อ Main Section ส่วนนี้จะแบ่งตามสาขาวิชา ทั้ง คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ดาราศาสตร์ เทคโนโลยี ฯลฯ เมื่อคลิ้กเข้าไปแต่ละหัวข้อ จะมีบทความให้อ่านกันอย่างจุใจ นอกจากนี้คุณยังสามารถร่วมแสดงความคิดเห็น หรือพุดคุยกับท่านอื่นๆ ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ผ่านกระดานสนทนาอีกด้วย สำหรับน้องๆ หนู แนะนำให้เข้าไปที่มุมสนุกกับวิชาการ ซึ่งมีเกมให้ความรู้ รวมทั้งเรื่องของมายากลน่าสนุกมาให้เล่นกันด้วย ส่วนใครที่ต้องการหาข้อมูลของสถาบันการศึกษา ทั้งในและนอกประเทศ คลิ้กไปที่ลิงก์บนหน้าเว็บไซต์ได้เลย เอาเป็นว่าผมอยากให้คุณๆ ได้เข้ามาดูเองจะดีกว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นครับ พุดได้คำเดียวว่าสมกับเป็นเว็บไซต์วิชาการที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดในประเทศไทย
ตอนนี้
สคูลไทย.เน็ต
www.skooolthai.netสคูลไทย.เน็ต เว็บไซต์น้องใหม่ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้เป็นระบบการศึกษาแบบอีเลิร์นนิ่งโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นระบบการเรียนรู้ที่อาศัยประโยชน์ของโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ในการเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลทั่วทุกมุมโลก และยังทำให้การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากทุกๆ ที่ ที่มีอินเทอร์เน็ตเข้าไปถึง
สำหรับโครงการนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือของบริษัท อินเทล และกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีบริษัทไมโครซอฟท์เป็นผู้สนับสนุนร่วม ภายใต้โครงการ skoool ของอินเทล ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาระบบอีเลิร์นนิ่งที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายๆ ประเทศในยุโรป ทั้งอังกฤษ ไอร์แลนด์ และสวีเดน โครงการดังกล่าวในแต่ละประเทศ จะมีการปรับเนื้อหาความรู้ ให้สอดคล้องกับหลักสูตรที่ใช้สอนภายในโรงเรียน รวมทั้งข้อมูลทางด้านวิชาการของกระทรวงศึกษาธิการสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมฯ รวมถึงครูและผู้ปกครอง ซึ่งดำเนินการโดยคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการวางหลักสูตรจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อสร้างดิจิตอลคอนเทนท์ที่เป็นประโยชน์สำหรับครูและนักเรียน
ด้วยเนื้อหาและข้อมูลที่เป็นอินเตอร์แอคทีฟ ช่วยให้วิชาที่ยากต่อการทำความเข้าใจ เช่น วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ กลายเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายขึ้น ที่สำคัญคือ นักเรียนและผู้สนใจทุกคนยังสามารถใช้บริการเว็บไซต์นี้ได้ฟรีๆ ไม่ว่าจะออนไลน์มาจากที่โรงเรียนหรือที่บ้านก็ตาม
ระบบการศึกษาแบบอีเลิร์นนิ่ง ที่เว็บสคูลไทยได้จัดทำขึ้นมานั้น ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาที่เป็นภาษาไทย ซึ่งคลอบคลุมหลายแขนงวิชา ทั้งคณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ และดาราศาสตร์ เนื้อหาที่นำเสนอทั้งหมดนั้น มีความน่าสนใจและสามารถเข้าใจง่ายได้ง่าย เพราะมีทั้งภาพและเสียงประกอบ โดยแบ่งออกเป็นบทเรียน และยังมีแบบฝึกหัดให้ทำตอนท้ายอีกด้วย เท่าที่ผมได้เข้าไปสำรวจดูบอกได้คำเดียวว่าอิจฉาเด็กสมัยนี้มากเลย ที่ในแต่ละวันก็มีบทเรียนมารอถึงในห้อง ถ้าเป็นแบบนี้ เด็กคนไหนที่ไม่ใฝ่รู้ก็อาจจะถูกเพื่อนๆ ทิ้งห่างในเรื่องความฉลาดรอบรู้ และภูมิปัญญาก็เป็นได้ ถือเป็นการปฏิวัติโลกแห่งการเรียนรู้แบบใหม่ ที่ส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักแสวงหาความรู้เพิ่มเติมจากภายนอกห้องเรียน ใครมีลูกมีหลานก็พากันเข้าไปใช้บริการกันให้เยอะๆ นะครับ เดี๋ยวจะหาว่าของฟรี ที่ดีๆ ไม่มีในโลก ผมพามาให้ดูแล้วนี่ไง!
คณิต.คอม
www.kanid.comสำหรับเว็บนี้ ถ้าจะไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะได้รับความนิยมจากบรรดาน้องๆ นักเรียน นักศึกษา มากเป็นพิเศษ ถึงแม้จะเป็นเว็บที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ล้วนๆ ก็ตาม แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่าศาสตร์แห่งการคำนวณนี้ เป็นหนึ่งในพื้นฐานการแตกแขนงความรู้ของมวลมนุษญ์เช่นกัน ดังนั้น จึงยกให้เป็นเว็บที่ยอดเยี่ยมเว็บหนึ่ง
จุดประสงค์ของการจัดทำเว็บไซต์ขึ้นมา เพื่อต้องการให้เป็นศูนย์การเรียนรู้คณิตศาสตร์ออนไลน์ ที่ให้อิสระทางการศึกษาแก่ทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยูในวัยใดก็ตาม หากมีคณิตศาสตร์อยู่ในหัวใจก็เข้ามาสนุกกันได้ครับ ที่นี่ต้องการให้การเรียนคณิตศาสตร์ทั่วโลกสนุกเหมือนอยู่ในห้องเรียน ดังนั้น จึงมีสื่อมัลติมีเดียมาประกอบการเรียน การสอนด้วย มีคลินิกคณิตศาสตร์เอาไว้คอยช่วยกันแก้ไขโจทย์คณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน แต่ผมก็แอบเห็นน้องๆ บางคนเอาการบ้านโพสต์ในกระทู้ด้วย (555) ช่างคิดกันดีจริงๆ หัวข้อหลักๆ ที่น่าสนใจก็มี ทัศนคติคณิตศาสตร์ ประวัตินักคณิตศาสตร์โลก โปรแกรมช่วยคิด เทคนิคการนวณ เว็บบอร์ด และความรู้ทั่วไปเพื่อผู้สนใจวิชาคณิตศาสตร์ โดยแบ่งระดับความรู้และเนื้อหาตั้งแต่ ชั้นปฐม ไปจนถึงมหาวิทยาลัยกันเลยทีเดียว
โดยส่วนตัวแล้วผมเองก็อ่อนในเรื่องการคำนวณครับ เลยลองเข้าไปอ่านข้อมูลต่างๆ ในเว็บดู เผื่อจะช่วยให้อะไรดีขึ้นมา ซึ่งหลังจากใช้เวลาไปสักพัก เริ่มรู้สึกว่าอยากกลับไปเรียนใหม่อีกครั้ง ทำไมที่นี่เขาอธิบายเข้าใจง่ายดีจริงๆ นอกจากช่วยให้นักเรียนได้ทำความเข้าใจในวิชาคณิตศาสตร์เรื่องต่างๆ ได้ง่ายแล้ว สำหรับครู อาจารย์ ที่ยังใหม่กับการสอน หรือต้องการปรับเทคนิคในการสอนเพิ่มเติมละก็ เว็บนี้เขาก็มีข้อมูลมาแนะนำบรดาครูผู้สอนด้วยเช่นกัน ผมเพิ่งรู้จากที่นี่เช่นกันว่าวิธีการสอนนั้นไม่ได้มีเพียงแบบเดียว แต่มีมากกว่าสิบแบบเลยทีเดียว เอาเป็นว่าถูกใจมากๆ ใครรักในการคำนวณ หรืออยากเป็นครูสอนคณิตศาสตร์เก่งๆ ก็เข้ามาหาความรู้เพิ่มเติมจากที่นี่ได้เลย
หวังว่าเว็บไซต์ทั้งสามแห่งที่แนะนำไปนี้ จะช่วยส่งเสริมให้เยาวชนเกิดการเรียนรู้จากภายนอกห้องที่มากขึ้น และคงใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างถูกต้องและถูกทาง ที่สำคัญอย่าลืมนำความรู้ที่ได้เก็บเอาไว้เป็นประสบกรณ์ที่ล้ำค่า ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของการสร้างบุคคลากรที่มีคุณภาพในอนาคตนั่นเอง
จาก Computer Today